เชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างสรรค์กฎหมายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน

ร่วมสร้างกฎหมายกับไอลอว์
Bookmark and Share

ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"กศน.ทวีวัฒนา"สอนวิชาชีพระยะสั้นฟรี

วันที่ 06 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11563 มติชนรายวัน


"กศน.ทวีวัฒนา"สอนวิชาชีพระยะสั้นฟรี




น.ส.สิริกวินท์ ครุธครองพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เขตทวีวัฒนา กทม. เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน กศน.ได้มีนโยบายมุ่งเน้นที่จะสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชาติ โดยส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำ เพิ่มรายได้ และลดรายจ่าย จึงได้มอบหมายสถานศึกษาในสังกัดได้จัดสอนวิชาชีพแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อรองรับการทำงานในสภาพสังคมปัจจุบัน โดยในส่วนของ กศน.เขตทวีวัฒนาได้ร่วมมือกับธนาคารออมสิน ภาค 3 ขอรับการสนับสนุนเงินจัดอบรมวิชาชีพระยะสั้นขึ้นดังนี้
1.การทำลูกประคบสมุนไพรดับกลิ่น
2.การทำอาหารเพื่อสุขภาพบำรุงผิวและความงาม
3.การทำน้ำเต้าหู้ใบเตยทำกินได้ทำขายรวย
4.การทำบัวลอยงาดำ
5.การทำครีมกระชับผิวหน้า
6.การทำครีมละลายไขมันลดเซลลูไลด์
7.การทำน้ำมันมะพร้าวหีบเย็น
8.การทำน้ำมันไพลแก้ปวดเมื่อย
9.การตอกเส้นเฉพาะจุดเพื่อสุขภาพ
10.การทำอาหารว่างติ่มซำ
11.การทำน้ำสมุนไพรเพื่อสุขภาพ
12.การทำน้ำยาล้างจานและครีมอาบน้ำ
13.การทำขนมกระหรี่ปั๊บ
14.การทำผงสมุนไพรดับกลิ่น และ
15.การจัดช่อบูเก้และร้อยพวงมาลัย
โดยจะเปิดอบรมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ผู้สนใจติดต่อสมัครได้ที่ กศน.เขตทวีวัฒนา ตั้งอยู่ในวิทยาลัยทองสุข ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ โทร.0-2449-0324-6

หน้า 23

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เวิร์กช็อป "นวดฝ่าเท้า" สร้างอาชีพเสริม"น.ศ.-ชุมชน"

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11554 มติชนรายวัน


เวิร์กช็อป "นวดฝ่าเท้า" สร้างอาชีพเสริม"น.ศ.-ชุมชน"





ปัจจุบัน ปัญหาการปวดเมื่อยตามร่างกาย อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือแม้แต่อาการเครียดที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คน โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น มักเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน คอตกหมอน การเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ หรือแม้แต่ความเครียดที่เกิดจากพิษเศรษฐกิจ การหันมาพึ่งวิธีรักษาโดยการนวดด้วยแพทย์แผนไทย หรือการใช้สมุนไพร เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ธุรกิจนวดแผนไทยผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้ใช้บริการที่นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น

"งานอนามัย และสุขาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์" จึงได้จัดโครงการ " "ฝึกอบรมนวดฝ่าเท้า" " ให้แก่นักศึกษา และผู้ที่สนใจ ฟรี!!

"ผศ.อารีย์ สงวนชื่อ" หัวหน้างานอนามัยและสุขาภิบาลเล่าว่า งานอนามัยและสุขาภิบาล ได้รับนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการส่งเสริมให้รักษาบำบัดการเจ็บป่วยของประชาชน โดยใช้แพทย์แผนไทย ได้แก่ การนวดตัว นวดฝ่าเท้า การใช้สมุนไพร เป็นต้น ดังนั้น มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นแหล่งวิชาความรู้ และการให้บริการชุมชน จึงจัดโครงการอบรมนวดฝ่าเท้า ให้แก่ นักศึกษา และประชาชนในชุมชนที่สนใจ โดยได้รับเกียรติจาก "อาจารย์ยุพิน โตเอี่ยม" ผู้อำนวยการแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นวิทยากร มหาวิทยาลัยมุ่งหวังให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ ประโยชน์ได้จริง และนำไปประกอบเป็นอาชีพเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว

อาจารย์ ยุพินบอกถึงความนิยมในการนวดแผนไทยว่า "ปัจจุบันการนวดฝ่าเท้าเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย และชาวต่างชาติ ทั้งในแถบเอเชีย และยุโรป ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพที่ลงทุนน้อยแต่ได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่ดี บางคนถึงกลับไปเปิดร้านอยู่ต่างประเทศเลยก็มี การนวดฝ่าเท้าจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ การนวดโดยใช้มือ และการนวดที่ใช้มือและไม้กดจุดร่วมกัน เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และระบบน้ำเหลือง อีกทั้ง ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นการช่วยบำบัดอาการของโรค เพื่อฟื้นฟูให้ร่างกายแข็งแรง และอวัยวะต่างๆ ทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ป้องกันโรค เช่น ท้องผูก หอบหืด โรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ ปวดศีรษะ โรคไต นิ่วในถุงน้ำดี ไมเกรน ไซนัส และโรคเครียด ซึ่งการนวดบำบัด ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต โดยเฉพาะการดูแลเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุ นอกจากนั้น ยังช่วยสร้างความอบอุ่น และสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวด้วย

น.ส.จำเนียร ไชยคำ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หลักสูตรเคมี 1 ในนักศึกษาที่เข้าอบรม กล่าวว่า นอกจากจะได้เรียนรู้วิธีการนวดที่ถูกต้องตามศาสตร์แพทย์แผนไทยแล้ว ยังยึดเป็นอาชีพได้อีกด้วย หลังจากผ่านการอบรม จะพยายามฝึกฝนตนเองให้เกิดความชำนาญ เพื่อนวดผ่อนคลายให้กับคนในครอบครัว หรือใช้เวลาว่างหลังการเรียนทำเป็นอาชีพเสริมได้

"นับเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่สร้างรายได้ให้กับนักศึกษา และชุมชน ได้อย่างดี!!"

หน้า 23

Business Matching กับ จีน (มณฑลกวางตุ้ง) ในงาน "2009 China (Guangdong) - Thailand Business Conference" 10 พย 52 - ไม่มีค่าใช้จ่าย



 
จาก: Somnuk SMITTHIPONGPANICH <smitthipongpanich@gmail.com>
วันที่: ตุลาคม 26, 2009 2:02 หลังเที่ยง
หัวเรื่อง: Business Matching กับ จีน (มณฑลกวางตุ้ง) ในงาน "2009 China (Guangdong) - Thailand Business Conference" 10 พย 52 - ไม่มีค่าใช้จ่าย
ถึง: ConcernedPERSON@windowslive.com
สำเนา: wansap@off.fti.or.th


เรียน สมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ สมาชิก Business Matching และ ผู้ประกอบการ

 

ด้วยรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน นำโดย นาย วาง หยาง (Mr. Wang Yang) เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ มณฑลกวางตุ้ง จะนำคณะภาครัฐและเอกชนจากมณฑลกวางตุ้ง จำนวน 300 คน เดินทางมาเยือนประเทศไทย และกำหนดจัดงาน "2009 China (Guangdong) – Thailand Business Conference" ซึ่งประกอบด้วย การสัมมนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา 9.30- 16.00 . ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 1 โรงแรมแชงกรี ล่า ซอยวัดสวนพลู บางรัก กรุงเทพฯ รายละเอียดกำหนดการตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้

ทั้งนี้ คณะภาคเอกชนจีนที่เดินทางมาครั้งนี้ มีจำนวน 193 คน จาก 130 บริษัทในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า (18 บริษัท) สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (12 บริษัท) อาหารและเกษตรกรรม (8 บริษัท) เคมีภัณฑ์และยา (9 บริษัท) เครื่องจักรและอุปกรณ์ (5 บริษัท) วัสดุก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ (14 บริษัท) การคมนาคมและการขนส่ง (7 บริษัท) การบริการ (5 บริษัท) อุตสาหกรรมเบา (21 บริษัท) การค้า (8 บริษัท) การท่องเที่ยว (5 บริษัท) บริการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ (4 บริษัท) และอื่น ๆ (14 บริษัท) รายละเอียดบริษัทตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้

หากท่านประสงค์เข้าร่วมงาน ใคร่ขอให้กรอกข้อมูลใน Reply Form ส่งมาที่ Email: sureeratp@off.fti.or.th, wansap@off.fti.or.th  ภายในวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2552 เพื่อที่สภาอุตสาหกรรมฯ จะได้ดำเนินการจัดส่งรายชื่อของท่านไปยังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อที่จะได้ดำเนินการจัดส่งบัตรเชิญเข้าร่วมงานให้ท่านต่อไป ทั้งนี้ หากท่านต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อที่ คุณวรรษา โทร 0-2345-1180 หรือ คุณจรรยา โทร 0-2345-1123

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาเข้าร่วมงานสัมมนา และ Business Matching

 

(รับจำนวนจำกัด!! ขอสงวนสิทธิ์อันดับต้นๆ ให้สำหรับสมาชิกฯ)

 

ขอแสดงความนับถือ

โครงการจับคู่ธุรกิจ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

 

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โซน ซี ชั้น 4 

60 ถนนรัชดาภิเษกตัดใหม่ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ  10110

โทรศัพท์  02-345-1115-20-1123-5, -1132, -1180

โทรศัพท์มือถือ :  086-329-1976-8

โทรสาร :  02-345-1281-3, 02-345-1119

อีเมล์ : business_matching@off.fti.or.th, bmatchingfti@gmail.com

เว็ปไซต์ : http://www.fti.or.th

 

 

 





--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
chun
http://tham-manamai.blogspot.com /sundara        
http://dbd-52hi5com.blogspot.com/ dbd_52
http://thammanamai.blogspot.com/ อายุวัฒนา
http://sunsangfun.blogspot.com/ suntu
http://originality9.blogspot.com/ originality
http://wisdom1951.blogspot.com/ wisdom

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สสว. จับมือไปรษณีย์ไทย จัดทำ Mail Order ส่งสินค้า SMEs ถึงบ้าน



 
From: สสว. <jintana@sme.go.th>
Date: ต.ค. 20, 2009 5:09 หลังเที่ยง
Subject: สสว. จับมือไปรษณีย์ไทย จัดทำ Mail Order ส่งสินค้า SMEs ถึงบ้าน
To: 

เรื่อง (Subject) : สสว. จับมือไปรษณีย์ไทย จัดทำ Mail Order ส่งสินค้า SMEs ถึงบ้าน
เรียน สมาชิก สสว.

 

ตามที่ท่านได้ให้ความสนใจและสมัครเป็น "สมาชิก สสว." นั้น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ขอขอบพระคุณในความสนใจและเข้าร่วมเป็น สมาชิก สสว.  โดย สสว. จะเร่งดำเนินการวางแผนและจัดให้มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เพื่อมอบให้แก่ท่านในโอกาสต่อไป

สำหรับกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ที่ สสว. จะขอมอบแก่ท่านในขณะนี้ คือ สสว. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในด้านการตลาด และหนึ่งในกิจกรรมที่สร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้า คือ การจัดทำ Mail Order เพื่อจำหน่ายสินค้า SMEs ทั่วไทย ทั้งนี้ สินค้าได้มาจากผู้ประกอบการ SMEs ที่ผ่านการคัดเลือก จากโครงการ SMEs Flying Geese ของ สสว. 

จึงขอเรียนเชิญสมาชิก สสว. และผู้สนใจทั่วไป สั่งซื้อสินค้า SMEs ทั่วไทย ผ่านทาง Mail Order หรือช่องทางอื่น ๆ

วิธีสั่งซื้อสินค้า SMEs ทั่วไทย

1. ผ่านเว็บไซต์ สสว.

2.  ผ่านเว็บไซต์ไปรษณีย์ไทย : http://www.postemart.com/shop/

  • ผ่าน Call Center ไปรษณีย์ไทย โทร. 1545 หรือ 0 2982 8222
  • ที่ไปรษณีย์ทุกแห่งใน กทม. – ปริมณฑล  และไปรษณีย์จังหวัดทั่วประเทศ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

    • เกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้า SMEs ทั่วไทย การชำระเงิน และอื่น ๆ โทร. 1545 หรือ 0 2982 8222
    • เกี่ยวกับโครงการ SMEs Flying Geese โทร.  0-2278-8800 ต่อ 407


แจ้งข่าวสาร โดย ส่วนบริหารงานสมาชิกและสนับสนุน
ฝ่ายประสานและบริการ SMEs (สสว.)
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

 



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
chun
http://tham-manamai.blogspot.com /sundara        
http://dbd-52hi5com.blogspot.com/ dbd_52
http://thammanamai.blogspot.com/ อายุวัฒนา
http://sunsangfun.blogspot.com/ suntu
http://originality9.blogspot.com/ originality
http://wisdom1951.blogspot.com/ wisdom

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Exhibition on The Dimension of Plane



 
From: TCDC <memberinfo@tcdc.or.th>
Date: ต.ค. 8, 2009 4:58 หลังเที่ยง
Subject: Exhibition on The Dimension of Plane
To: 

   
หากท่านไม่สามารถอ่านอีเมลนี้ได้ กรุณาคลิกที่นี่ l If you cannot read this email, please CLICK here.
   
             
             
         
    ในยุคปัจจุบัน การที่เราจะค้นหาข้อมูลที่มีอยู่อย่างหลากหลายและ
ซับซ้อนได้นั้น ต้องอาศัยการออกแบบนิเทศศิลป์ที่มีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสื่อขององค์กร ดิจิตอลมีเดีย กราฟฟิก
ดีไซน์ การออกแบบตัวพิมพ์ ระบบการค้นหาเส้นทางและป้าย
สัญญาณ ซึ่งจะช่วยให้เรารับรู้และเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ รอบตัวได้
อย่างรวดเร็วผ่านทางการมองเห็น โดยสัญชาตญาณเมื่อได้รับ
ข้อมูลมาแล้ว เราก็จะเดินไปถูกทิศทางโดยอัตโนมัติ และจดจำ
สัญลักษณ์ที่เห็นได้ในทันที กล่าวโดยสรุปคือ เราจะค้นพบสิ่งที่
เราต้องการจากสภาวะแวดล้อมรอบตัวด้วยการมองเห็นการ
ออกแบบนิเทศศิลป์นั่นเอง
  To navigate our way through the information jungle we depend on effective communication design. Corporate design, digital media, graphic design, typography, way-finding and signage systems enable us to immediately spot what we need. We absorb information intuitively, so that we automatically go the right way and instantly recognize the desired product. In short, with the help of communication design we immediately spot what we need in order to make sense of our surroundings.    
         
             
   

การออกแบบนิเทศศิลป์ของเยอรมนีได้รับความยกย่องอย่างมาก
ในหลายสิบปีที่ผ่านมา นิทรรศการ "มิติแห่งพื้นที่ - การออกแบบ
นิเทศศิลป์ในเยอรมนี" ถือได้ว่าเป็นนิทรรศการแรกที่เน้นด้าน
การออกแบบนิเทศศิลป์ของยุคปัจจุบัน โดยรวบรวมผลงานกว่า
150 ชิ้นจากนักออกแบบที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น โยฮันเนส
แอร์เลอร์, ไมค์ ไมเร่อร์, โยอาคิม เซาเทอร์, เอริค ชปีคมันน์
และอันเดรอัส อือเบเล ซึ่งล้วนแสดงถึงความชำนาญของการ
ออกแบบภาพลักษณ์ที่เป็นแบบสองมิติ

นิทรรศการนี้ยังได้นำเสนอถึงวิวัฒนาการของการออกแบบ
รวมถึงผลกระทบต่อทัศนศิลป์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยโลโก้
สัญลักษณ์ภาพ ตัวอักษรหรือระบบต่างๆ จะมีความโดดเด่น
อย่างมากก็ต่อเมื่อได้สื่อออกมาแทนตัวผลิตภัณฑ์แล้วหลายสิบปี
ตัวอย่างเช่น โลโก้ของธนาคารด้อยท์เช่อะบังค์ซึ่งออกแบบโดย
อันโทน ชตันโคว์สกี ในปี ค.ศ.1974 หรือ สัญลักษณ์ภาพ
ของโอเทิ่ล ไอเคอร์ที่ออกแบบให้กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเมือง
มิวนิก ในปี ค.ศ.1972 หรือ ตัวอักษรที่ใช้นำทางให้ผู้ขับขี่บน
ถนนทางหลวงในเยอรมนีที่ยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน

 

German communication design has been highly regarded for decades. Nevertheless the exhibition "The Dimension of Surface - Communication Design in Germany" will be the first contemporary show on current trends in German communication design. The exhibition, consisting of 150 recent works by influential designers, shows a comprehensive overview of current works by renowned design agencies such as Johannes Erler, Mike Meire, Joachim Sauter, Erik Spiekmann and Andreas Uebele. Their particular strengths and specialisations highlight the five principles of two-dimensional communication design.

The exhibition also captures where current trends come from and reflects on the effect of graphic and visual designs of the past continues to the present day. The powerful impact of logos, pictograms, typefaces or systems often only becomes apparent when they have been making their mark over for decades: the Deutsche Bank logo designed by Anton Stankowski in 1974, for example, or Otl Aicher's pictograms - originally designed for the Munich Olympics in 1972, or the DIN typeface that directs drivers on German autobahns.

   
             
   
For German, click here
   
             
   
เข้าชมฟรี
TCDC, ดิ เอ็มโพเรียม ชั้น 6
10.30 - 21.00 (ปิดวันจันทร์)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ TCDC
โทร: 02 664 8448
 
Free Admission
TCDC, 6th Fl., The Emporium
10.30 - 21.00 (Closed Mondays)
For more information, please contact
TCDC Information Counter. Tel: 02 664 8448
   
             
         
   

DISCLAIMER
TCDC สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
TCDC reserves the right to make any changes without prior notice


ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ
ชั้น 6 ดิเอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ 622 สุขุมวิท 24 กรุงเทพฯ 10110
เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) 10.30 - 21.00 น. โทร: (66) 2 664 8448 แฟ็กซ์: (66) 2 664 8458

Thailand Creative & Design Center (TCDC)
6th Floor The Emporium Shopping Complex 622 Sukhumvit 24, Bangkok 10110, Thailand
Opening hours Tuesday - Sunday (Closed on Monday), 10.30 a.m. - 9.00 p.m.
Tel: (66) 2 664 8448 Fax: (66) 2 664 8458

   
         


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
news
http://net209.blogspot.com/ net9
http://parent-youth.blogspot.com/ parent-youth.net
http://parent-net.blogspot.com/ parent
http://netnine.blogspot.com/  science
http://pwdinth.blogspot.com/
http://senatelibrary.wordpress.com/about
http://gotoknow.org/blog/cemu/295924

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สมาคม คนตาบอดแห่งประเทศไทย รุกเปิดโครงการต้นกล้าอาชีพพิเศษเพื่อคนตาบอดและสตรีผู้ด้อยโอกาส ย้ำโครงการฯ จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เข้าร่วมได้อย่างแน่นอน

สมาคม คนตาบอดแห่งประเทศไทย รุกเปิดโครงการต้นกล้าอาชีพพิเศษเพื่อคนตาบอดและสตรีผู้ด้อยโอกาส ย้ำโครงการฯ จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้เข้าร่วมได้อย่างแน่นอน

by : au (chayanisa )
Mail to a.portland@hotmail.com
IP : (203.156.141.26) - เมื่อ : 6/10/2009 04:06 PM

นายสมชาย ปัญญ์เอกวงศ์ ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และ ประธานฝ่ายอาชีพและการจ้างงานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมเพื่อคนตาบอดแห่งประเทศไทย ได้เริ่มดำเนินการโครงการต้นกล้าอาชีพเพื่อคนตาบอดและสตรีผู้ด้อยโอกาสไป แล้ว โดยใช้ชื่อว่า “โครงการฝึกอาชีพนวดแผนไทยคนตาบอดและสตรีผู้ด้อยโอกาสในภูมิภาค ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน(ต้นกล้าอาชีพ)” ซึ่งมีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 2,000 คน แบ่งออกเป็นคนตาบอด 1,600 คน และสตรีผู้ด้อยโอกาส 400 คน มีจุดฝึกอบรมทั้งหมด 200 จุดทั่วประเทศ ระยะเวลาการฝึกอบรมหลักสูตรนวดแผนไทย 300 ชั่วโมง โดยวันที่ 15 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา ได้ทำการเปิดจุดฝึกอบรมในชุดแรก จำนวน 53 จุด ผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 530 คน และวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ดำเนินการเปิดจุดฝึกอบรมชุดที่สอง จำนวน 40 จุด จำนวนผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด 400 คน

นายสมชาย ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการต้นล้าอาชีพครั้งนี้ได้มีการสอนหลักสูตรเสริมให้กับผู้เข้าร่วม โครงการ คือ หลักสูตรอบรมการอ่านเขียน และพิมพ์ อักษรเบรลล์ ระดับ 1 (ประถมศึกษา) ระยะเวลา 120 ชั่วโมง และหลักสูตรการฝึกทักษะด้านการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและการเคลื่อนไหว Orientation & Mobility (O&M) ระยะเวลา 120 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ก่อนจะมีการดำเนินการโครงการฯ ตามแผนที่ได้วางไว้ ทั้งนี้ระยะเวลาในการฝึกอบรมของผู้เข้าร่วมโครงการรวมทั้งหมด 540 ชั่วโมง

โดยคาดหวังว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างทางเลือกและสร้างโอกาสการมีงานทำ ตลอดจนสามารถพัฒนาศักยภาพ ทักษะอาชีพการฝึกลักษณะนิสัยในการทำงาน การบริการ จัดการให้แก่คนพิการทางสายตาและสตรีผู้ด้อยโอกาส ที่ถูกละเลยการจ้างงานและว่างงานอันเนื่องมาจากการละทิ้งของภาครัฐ ให้ได้มีโอกาสมีรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว นายสมชาย กล่าวทิ้งท้าย...



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/ pwd9
http://ktblog1951.blogspot.com/ pwday
http://newsblog9.blogspot.com/ news
http://bloghealth99.blogspot.com/ health
http://labour9.blogspot.com/ labour
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html
http://www.asianbarometer.org/newenglish/introduction/default.htm

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2552

เนคเทคพัฒนาซอฟต์แวร์เดนตี้แพลนช่วยวางแผนผ่าตัดรากฟันเทียม

เนคเทคพัฒนาซอฟต์แวร์เดนตี้แพลนช่วยวางแผนผ่าตัดรากฟันเทียม
เนค เทค พัฒนาซอฟต์แวร์เดนตี้แพลนช่วยวางแผนผ่าตัดรากฟันเทียม เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกกับทันตแพทย์พร้อมถ่ายทอดให้มหาวิทยาลัยใช้ ประโยชน์ในการศึกษาวิจัยต่อไป
ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยที่ประสบปัญหาสุขภาพในช่องปากจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่สูญเสียฟันและต้องใส่ฟันเทียมทั้งปาก ซึ่งการฝัง รากเทียมจะช่วยยึดฟันเทียมให้ติดแน่นได้ แต่ที่ผ่านมาทันตแพทย์ต้องใช้วิธีฝังรากฟันเทียมที่ยุ่งยาก ไม่มีเครื่องมือช่วยวางแผนที่ดี โดยทันตแพทย์ต้องถ่ายภาพฟันจากเครื่องถ่ายภาพรังสี (X-ray) ที่เป็นสองมิติเท่านั้น ซึ่งทำได้เพียงการคาดคะเนตำแหน่งของเส้นประสาทกับประสบการณ์ของทันตแพทย์ใน การฝังรากฟันเทียมให้กับผู้ป่วยเท่านั้น ทำให้เกิดการบิดเบือนจากความเป็นจริงและใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมง ดังนั้น เนคเทคได้ร่วมกับสำนักงานจัดการสิทธิเทคโนโลยี ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) ในการอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ “ซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการผ่าตัดรากฟันเทียมเดนตี้แพลน (Dental Implant Plaaning Software:Dintiplan) โดยระบบซอฟต์แวร์เดนตี้แพลนจะเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนการผ่าตัดบน คอมพิวเตอร์ก่อนการผ่าตัดจริง โดยจะใช้ข้อมูลรูปฟันแบบสามมิติจากการถ่ายภาพด้วยเครื่องเอกซเรย์ คอมพิวเตอร์ (X-ray CT) ทำให้ภาพมีความถูกต้องแม่นยำเสมือนจริงมากกว่าเครื่องถ่ายภาพรังสี อีกทั้ง เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการผ่าตัดมากขึ้น ที่สำคัญใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ สามารถเก็บข้อมูลผู้ป่วย เพื่อเรียกกลับมาดูได้ทันที อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ให้นักศึกษาและอาจารย์คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล ไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาและวิจัยทางด้านทันตกรรมต่อไป นอกจากนี้ ยังมีภาคเอกชนและศูนย์ทันตกรรมสนใจติดต่อและขออนุญาตใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าว แล้วหลายแห่ง ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับสถาบันการศึกษาที่ต้องการใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัยซอฟต์แวร์เดน ตี้แพลน รวมถึงผู้ประกอบการใดที่สนใจจะขอรับอนุญาตใช้ลิขสิทธิ์สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดการสิทธิเทคโนโลยี TMC ได้ที่โทร 02-564-7000 ต่อ 1619 หรือ E-mail tlo@tmc.nstda.or.th

 
ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : นิศากานต์ กีร์ตะเมคินทร์    Rewriter : จำนงค์ ศรัณยพิพัฒน์
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th



 วันที่ข่าว : 24 กันยายน 2552


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday
http://blogpwd.blogspot.com/
http://newsblog9.blogspot.com/
http://bloghealth99.blogspot.com/
http://labour9.blogspot.com/
http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf
http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/
http://www.mict4u.net/thai/
http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm
http://www.agkmstou.com/2008/index.php
http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

ขอเชิญสมาชิก สสว. เข้าร่วมโครงการ Green Biz Matching ฟรี!!!



 
จาก: สสว. <jintana@sme.go.th>
วันที่: กันยายน 18, 2009 6:11 หลังเที่ยง
หัวเรื่อง: ขอเชิญสมาชิก สสว. เข้าร่วมโครงการ Green Biz Matching ฟรี!!!
ถึง:


If can't read this e-mail. please click url -> http://cms.sme.go.th/cms/c/journal_articles/view_article_content?article_id=03-OTHER-180909

เรื่อง (Subject) : ขอเชิญสมาชิก สสว. เข้าร่วมโครงการ Green Biz Matching ฟรี!!!
เรียน สมาชิก สสว.

 

ตามที่ท่านได้ให้ความสนใจและสมัครเป็น "สมาชิก สสว." นั้น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ขอขอบพระคุณในความสนใจและเข้าร่วมเป็น สมาชิก สสว.  โดย สสว. จะเร่งดำเนินการวางแผนและจัดให้มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ เพื่อมอบให้แก่ท่านในโอกาสต่อไป

สำหรับกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ที่ สสว. จะขอมอบแก่ท่านในขณะนี้ คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด  กำหนดจัดโครงการ Green Biz Matching ระหว่างวันที่ 21-25 กันยายน 2552 ซึ่งโครงการ ดังกล่าว มีความมุ่งหวังที่กระตุ้นจิตสำนึกของผู้ประกอบการ SMEs ไทย และประชาชนทั่วไป ให้ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ความสำคัญของการลดโลกร้อน เพื่อให้เกิดความสมดุล รวมถึง ช่วยเปิดช่องทางการตลาด สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อน (Green concept) และผู้ประกอบการหรือประชาชนที่สนใจในผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อนประเภทต่าง ๆ ได้มาพบปะเพื่อเกิดช่องทางธุรกิจ

จึงขอเรียนเชิญ ผู้ประกอบการสมาชิก สสว. และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมชมงาน ระหว่างวันที่ 21-23 ก.ย. 2552 เวลา 10.00-20.00 น. ณ โถงหน้าสาขาธนาคารกสิกรไทย ชั้น 1 อาคาร
จามจุรีสแควร์ และสามารถติดต่อขอลงทะเบียนเพื่อเข้าเจรจาทางธุรกิจ (Business Matching) ในวันที่ 24-25 กันยายน 2552 ณ K SME Care Knowledge Center อาคารจามจุรีแสควร์ ชั้น 2 โทร.
0-2160-5203-4 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่
K-BIZ Contact Center  โทร. 0-2888-8822 หรือ
K SME Care Knowledge Center โทร. 0-2160-5203-4
Website: http://www.ksmecare.com/News_Popup.aspx?ID=5490
แผนที่ไปอาคารจามจุรีสแควร์ : http://www.soidb.com/th/bangkok/landmark/building/chamchuri_square.html

หมายเหตุ :

  • สสว. ให้ความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารเท่านั้น ดังนั้นการสอบถามรายละเอียดหรือการสมัครเข้าร่วมชมงานแสดงสินค้า หรือสมัครเข้าร่วมการฝึกอบรม กรุณาติดต่อผู้จัดงานโดยตรง

 

แจ้งข่าวสาร โดย ส่วนบริหารงานสมาชิกและสนับสนุน
ฝ่ายประสานและบริการ SMEs (สสว.)
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

 




--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
chun
http://tham-manamai.blogspot.com /sundara        
http://dbd-52hi5com.blogspot.com/ dbd_52
http://thammanamai.blogspot.com/ อายุวัฒนา
http://sunsangfun.blogspot.com/ suntu
http://originality9.blogspot.com/ originality
http://wisdom1951.blogspot.com/ wisdom

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คุณเก็บตารางนัดหมายที่ใด !! ลองมาดู Google Calendar และการเชื่อมโยงกับมือถือของคุณ

วันศุกร์ ที่ 10 กรกฎาคม 2552
คุณเก็บตารางนัดหมายที่ใด !! ลองมาดู Google Calendar และการเชื่อมโยงกับมือถือของคุณ
Posted by สภากาแฟ , ผู้อ่าน : 308 , 17:58:56 น.  
หมวด :
วิทยาศาสตร์/ไอที

พิมพ์หน้านี้


เมื่อวานนี้ได้ไปคุยกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้ประกอบการ SME พอดีไปคุยกันเรื่อง Calendar หรือตารางนัดหมายที่ใช้ๆกันในปัจจุบัน ผมถามเพื่อนๆว่าวันนี้ทำอย่างไร

  • บางคนโชคดีหน่อยทุกอย่างให้เลขาส่วนตัวทำหมด เวลาใครจะนัดหมายก็ให้ติดต่อเลขาแทน ผมถามเขาต่อว่าถ้าเป็นนัดหมายส่วนตัว หรือเลขาไม่อยู่ทำอย่างไร เพื่อนก็ตอบว่า ก็ต้องรอละ แล้วถ้าลืมละใครมาเตือนก็คงตอบไม่ได้
  • อีกรายดูดีหน่อย เขาเก็บทุกอย่างลงในเครื่อง Notebookของเขา ผมถามว่าแล้วถ้าไม่ได้พก Notebook อยู่แล้วคนโทรมานัดหมายทำอย่างไร เขาก็บอกว่าต้องกลับไป check ดูละ แล้วถ้าแต่ละวันมีหลายนัดทำอย่างไรถ้าไม่ได้เปิด Notebook ตลอด เขาก็บอกว่าก็ต้องจำเอาหรือจดไว้
  • คนสุดท้ายเก็บนัดหมายไว้ในโทรศัพท์ ก็ดูดีหน่อยพกติดตัวตลอด ผมถามเขาว่าแล้วนัดหมายเก่าๆทำอย่างไร พอดีเขาไม่ทราบว่า Sync กับ Notebook ได้ก็เลยแนะนำเขา แต่ก็มีปัญหาละเพราะต้องมั่นทำการ Sync กันบ่อยๆ และอีกอย่างถ้าเครื่องมือถือพังมาหรือหายไปคงวุ่น ถ้าไม่ได้ Sync ข้อมูลไว้ แต่ข้อสำคัญก็ต้อง Sync กับโปรแกรม Outlook หรือโปรแกรมนัดหมานที่อาจต้องเสียค่าลิขสิทธิ์นะครับ

ผมก็เลยบอกว่า ผมเก็บนัดหมายไว้ใน Google Calendar ข้อดีก็คือผมไม่ต้องหยุดติดกับเครื่องใดเครื่องหนึ่ง User Interface ก็เหมือนกับ โปรแกรมบน Desktop เราสามารถกำหนดการนัดหมายแล้วลากเคลื่อนที่ปรับเปลี่ยนได้ เพราะฉะนั้นผมสามารถจะดูการนัดหมายผมผ่าน Web Browser เครื่องไหนก็ได้ สำหรับเครื่อง Notebook ตัวเองผมติด โปรแกรม Plugin ของ Mozilla Thunderbird ทำให้ผมสามารถดูการนัดหมายโดยไม่ต้องใช้ Web Browser และถ้ามีนัดหมายใดทาง E-mail ก็ปรับเปลี่ยนแก้ไขได้



เพื่อนๆที่มีมือถืออาจแย้งว่าใช้นัดหมายบนมือถือดีกว่า ผมก็บอกเลยว่า Google Calendar ผมนี่มัน Sync อยู่กับโปรแกรมนัดหมายบนมือถือ โดยผมเลือกใช้บรืการที่ติดตั้งที่เว็บไซต์ www.goosync.com ผมสามารถที่จะ sync กับมือถือได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน Internet หรือ GPRS ครับ ดังนั้นถ้าผมเล่นอยู่ในที่ๆมี Wifi ผมก็ Sync ผ่าน wifi ครับเพราะมื่อถือผมใช้ได้ แต่ถ้าไม่มีสัญญาณ wifi ก็ sync ผ่านGPRS ของโอเปร์เรเตอร์ละครับ

บริการ Goosync ที่เป็น Basic คือ sync ได้หนึ่งเดือนใช้ฟรัครับ และก็สนับสนุนมือถือทุกรุ่นตั้งแต่ Nokia ไปจนถึง iPhone อย่างของผมใช้รุ่นNokia E71 ก็มีครับ แต่บังเอิญผมต้องเก็บนัดหมายล่วงหน้ามากเป็นเวลาหลายเดือนเลยเลือกใช้บริการแบบเสียเงินครับ ถึงตอนนี้ผมต้องบอกว่าการเก็บตารางนัดหมายของผมเป็นแบบ Ubiquitous คือทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์ จะดูผ่านเน็ตเครื่องใดก็ได้ หรือจะเลือกใช้โปรแกรม Notebook ส่วนตัว หรือจะดูผ่านมือถือ ข้อมูลตัวเดียวกันหมดครับ ไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลจะหายไป


ผมว่าลองเข้าไดูซิครับ ท้ง Google Calendar, Goosync, และ Mozilla Thunderbird แต่ถ้ายังกังวลว่าเก็บตารางนัดหมายในGoogle ไม่ปลอดภัย กลัวข้อมูลหาย (!!!) ก็ยัง sync เข้ากับโปรแกรมนัดหมายใน Desktop ได้ ถ้าอยากจะเสียเงินซื้อ
http://www.oknation.net/blog/thananum/2009/07/10/entry-1


 

วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

BOMBARDIER LEARJET 45 XR

BOMBARDIER LEARJET 45 XR

Pic_22143

ความฝันของมนุษย์กับการโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นจริงขึ้นมาได้เมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว นับจากวันนั้นจนมาถึงทุกวันนี้ การเดินทางด้วยอากาศยานได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการโดยสารไปกับสายการบินที่เปิดให้บริการทั่วไป การเช่าเหมาเครื่องบินทั้งลำเพื่อบินไปเป็นหมู่คณะ โดยการเดินทางด้วยอากาศยานเป็นการขนส่งคนจำนวนมากให้ไปยังจุดหมายในทุกมุมของโลกใบนี้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุดกว่าการเดินทางด้วยยานยนต์ชนิดอื่น

วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปพบกับอากาศยานที่ใช้ในการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายแบบสายการบินด้วยเครื่องเจ็ตขนาดเบา BOMBARDIER LEARJET 45 XR



อากาศยานเครื่องยนต์เจ็ตขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมกันมากในหมู่นักธุรกิจ นักกีฬา และบุคคลสำคัญที่ต้องเดินทางไปในที่ต่างๆรอบโลก เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์เจ็ตเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ ใช้งานในการบินระยะทางปานกลาง บริษัทผลิตอากาศยาน BOMBARDIER ของแคนาดาเริ่มทำการพัฒนาและทดลองบินเครื่องบินเจ็ตรุ่น LEARJET 45 XR ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 และเริ่มทำการบินแบบพาณิชย์เป็นครั้งแรกเมื่อปลายเดือน มิถุนายน 2547 จนถึงขณะนี้ (2552) เครื่อง LEARJET 45XR ทำการบินไปแล้วกว่า917,000 ชั่วโมงบินโดยยังไม่พบกับข้อผิดพลาดหรือปัญหาในระบบการบินแต่อย่างใด นับได้ว่า LEARJET 45XR มีความน่าเชื่อถือในการใช้งานพอสมควรทีเดียว



BOMBARDIER LEARJET 45XR
เป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวขนาดเบาเป็นพิเศษ ( SUPER LIGHT JET) โดยการออกแบบของทีมวิศวกรการบินในบริษัท BOMBARDIER เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า VIP ที่มีความต้องการอากาศยาน เครื่องยนต์เจ็ตขนาดเล็กและเป็นการพัฒนาต่อยอดกับเครื่องเจ็ตที่บริษัทเคยสร้างไว้ในรุ่นก่อน และนำข้อมูลที่ได้จากการบินของเครื่องรุ่นก่อนหน้านี้มาปรับปรุงให้ดี ขึ้น เพื่อลดระยะทางในการบินขึ้นและร่อนลงจอดให้สามารถบินขึ้นลงกับสนามบินขนาดเล็กทั่วๆไปได้อย่างสะดวกสบาย มีอัตราการไต่ระดับเพื่อเปลี่ยนเพดานบินได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระให้มากขึ้นกว่าเดิม และข้อสำคัญคือความเร็วในการบินที่เพิ่มมากขึ้น BOMBARDIER LEARJET 45XR ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนสองเครื่อง ของบริษัทฮันนีเวลส์ โดยใช้เครื่องยนต์รุ่น TFE 731-20 BR โดยมีสมรรถนะที่ดีกว่ารุ่นเก่ามาก ให้แรงขับดันถึง 3500 ปอนด์จึงสามารถวิ่งขึ้นในระยะทางที่สั้นลง ทนทานต่ออุณหภูมิในขณะที่จอดตากแดดบนรันเวย์ได้ถึง 40 องศาเซลเซียสก่อนบินขึ้นได้เป็นเวลานานโดยยังติดเครื่องยนต์อยู่ทำให้สามารถ ใช้งานในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรได้เป็นอย่างดีและบินได้ไกลถึง 1678 กิโลเมตร (906 ไมล์ทะเล) กับผู้โดยสารบวกสัมภาระ 8 คน



ความเร็วสูงสุดที่ใช้ในการเดินทางของ LEARJET 45XR คือ 861 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (0.81มัค) อัตราการไต่ระดับเพดานบินแบบต่อเนื่องหลังจากการบินขึ้นจนไปถึงความสูงใน ระดับเพดานบินปกติ 43,000 ฟุต (13,106 เมตร) ใช้เวลา 23 นาที ระบบควบคุมการบินแบบอัตโนมัต HONEYWELL PREMUS 1000 จะแสดงข้อมูลการบินในแบบ ดิจิตอล แอลอีดี ทั้งหมดทุกระบบโดยข้อมูลจะแสดงผ่านจอภาพขนาดใหญ่ 8x7 นิ้ว และมีถึง 4 จอภาพ ที่จะร่วมกันแสดงข้อมูลที่จำเป็นต่อการเดินอากาศทั้งหมด ระบบประมวลผลของการทำงานในทุกพื้นที่ของตัวอากาศยานจะถูกบรรจุอยู่ในไดโนซิส และเมื่อช่างซ่อมบำรุงต้องการข้อมูลเพื่อทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ก็ สามารถต่อสายแล้วดาวน์โหลดข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดเวลาในการซ่อมบำรุงได้เป็นอย่างดี

การตกแต่งภายในห้องโดยสาร สามารถทำตามความต้องการของลูกค้าVIP ได้หลากหลายรูปแบบ แต่โดยปกติแล้วจะมีเก้าอี้ผู้โดยสารแบบมาตรฐาน 8 ตัวหุ้มเบาะหนังชนิดพิเศษโดยลูกค้าสามารถเจาะจงในการเลือกสีและชนิดของหนัง ที่จะนำมาตัดเย็บเบาะ ห้องโดยสารรูปไข่ของ LEARJET 45XR มีความยาวรวมทั้งหมด 19 ฟุต 9 นิ้ว ความสูงของตัวห้องโดยสาร 4 ฟุต 11 นิ้ว เก้าอี้โดยสารทั้ง 8 ที่นั้งสามารถถอดออกได้ทันที ด้านหน้าของผู้โดยสารมีโต็ะที่สามารถเก็บพับได้เพื่อวางเอกสารหรือสิ่งของใน ขณะที่กำลังบินอยู่และใช้เป็นโต็ะรับประทานอาหาร ไฟราวในเคบินใช้หลอดแบบแอลอีดีทั้งหมดและทางด้านท้ายเครื่องมีห้องนำ้ขนาด เล็กที่ดีไซน์ให้ใช้งานได้สะดวกไม่อึดอัดคับแคบจนเกินไป

เสียงรบกวน ของเครื่องยนต์ TFE 731-20 BR ในขณะทำการบินอยู่ในระดับที่ต่ำโดยมีเสียงดังเพียงเล็กน้อยในขณะที่เร่ง เครื่องยนต์เพื่อทำการบินขึ้น การบินไต่ระดับทำได้น่าพอใจโดยมีแรงสั่นสะเทือนยามเร่งเครื่องยนต์สูงสุด เพียงเล็กน้อย LEARJET 45XR ใช้ทางวิ่งขึ้นสั้นเพียง 1530 เมตร และมีจอแสดงข้อมูลทางการบินตลอดเส้นทางให้ลูกค้าหรือเจ้าของได้รับทราบ ข้อมูลโดยติดตั้งจอบริเวณด้านข้างประตูทางเข้า และแสดงข้อมูลแบบสามมิติที่อ่านค่าได้อย่างง่ายดายตลอดเส้นทางการบิน



เนื่องจาก เป็นอากาศยานขนาดเล็ก ความคล่องตัวในการเลี้ยวและปรับเปลี่ยนมุมบินจึงทำได้อย่างรวดเร็ว อัตราการไต่และลดเพดานบินทำได้ดีและสามารถร่อนโดยไม่มีเครื่องยนต์ได้ถึง กว่า 25 ไมล์ อัตราการร่วงหล่นอยู่ที่ 2,500-3,000 ฟุตต่อนาที ในขณะที่ร่อนโดยไม่ติดเครื่องยนต์

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการบินช่วยให้มนุษย์สามารถเดินทางรอบโลกได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย รวมถึงการกำหนดวันเวลาที่จะเดินทางไปและกลับได้อย่างแม่นยำ โลกของอากาศยานยังคงมุ่งไปข้างหน้าเพื่อคิดค้นและปรับปรุงอากาศยานให้มีความ ปลอดภัยยามเดินทางในทุกสภาวะอากาศและมันก็เหมือนกับที่สองพี่น้องตระกูลไรท์ เคยให้คำนิยามไว้ว่า ท้องฟ้าคืออิสรภาพที่มนุษย์ทุกคนฝันที่จะติดปีกแล้วโบยบินไปเหนือปุยเมฆ นั่นเอง

BOMBARDIER LEARJET 45 XR
General characteristics
Crew: 2
Capacity: 9 passengers which includes one on the lavatory which is certified as a seat[3]
Length: 57 ft 6 in (17.68 m)
Wingspan: 47 ft 10 in (14.57 m)
Height: 14 ft 1 in (4.30 m)
Wing area: 311 ft² (29.0 m²)
Empty weight: 13695 lb (6212 kg)
Max takeoff weight: 21,500 lb (9750 kg)
Powerplant: 2× Honeywell TFE731-20 , 3500 lb (15.56 kN) each
Performance
Maximum speed: 464 kt (Mach 0.81)
Cruise speed: 457 kt (525 mph)
Range: 2120 NM (2440 mi)
Service ceiling: 51,000 ft (15545 m

Chang palace

ภาพโดย

www.stratosjets.com
www.flightglobal.com
www.bombardier.com
www.classical.com.ua
www.flickr.com



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.parent-youth.net
http://www.familynetwork.or.th
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.webmaster.or.th
http://www.thailandshowtime.com/2009

สมาชิก สสว. ทราบหรือไม่ว่า : ความลับทางการค้าคืออะไร...



 
From: สสว. <jintana@sme.go.th>
Date: ก.ค. 31, 2009 4:59 หลังเที่ยง
Subject: สมาชิก สสว. ทราบหรือไม่ว่า : ความลับทางการค้าคืออะไร...
To: 

เรื่อง (Subject) :  สมาชิก สสว. ทราบหรือไม่ว่า : ความลับทางการค้าคืออะไร...
เรียน สมาชิก สสว.


ความลับทางการค้าคืออะไร  ข้อมูลที่เป็นความลับทางการค้าต้องมีสถานะอย่างไร  และเจ้าของความลับทางการค้ามีสิทธิในข้อมูลอันเป็นความลับทางการค้าของตนอย่างไร 
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://cms.sme.go.th/cms/c/journal_articles/view_article_content?article_id=01-LAW-110609 

หรือที่

http://cms.sme.go.th/cms/c/portal/layout?p_l_id=22.376

และหากท่านมีปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายธุรกิจ เชิญปรึกษาตามเบอร์โทรศัพท์ด้านล่าง...

 

ศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมาย SMEs
ฝ่ายประสานและบริการ SMEs

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
โทร. 0-2278-8800 ต่อ 400 (ในวันและเวลาราชการ)

                                                 



--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.parent-youth.net
http://www.familynetwork.or.th
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.webmaster.or.th
http://www.thailandshowtime.com/2009